สาวๆ หลายคนพยายามจะรักษาสิวมาสารพัดวิธี แต่ว่าไม่หายสักที และอยากจะลองใช้ยารักษาแต่ว่าอาจจะยังไม่มีข้อมูลว่ายาทารักษาสิวยี่ห้อไหนเหมาะกับเรา ยาแต่ละตัวมีข้อจำกัดในการใช้อย่างไร ก่อนจะรักษาสิว ก็ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ยารักษาสิวไม่ใช่สกินแคร์ เพราะฉะนั้นทุกครั้งใช้ยาทาทุกครั้ง ก็ควรจะขอคำปรึกษาจากเภสัชกรก่อนใช้ เพื่อเราจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และสามารถใช้ได้อย่างถูกวิธี จะได้ไม่มีผลข้างเคียง
ประเภทของสิว
สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจต่อมาก็คือเรื่องของสิว คร่าวๆ เราจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
1. สิวไม่อักเสบ
ที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน หรือเรียกกันว่า สิวอุดตัน (comedone) นั่นเอง สิวที่ไม่มีการอักเสบนี้จะแบ่งย่อยออกเป็น 2 ชนิด คือ
- Blackhead สิวหัวดำหรือสิวหัวเปิด
- WhiteHead สิวหัวขาวหรือสิวหัวปิด
2. สิวอักเสบ
สิวที่มีการอุดตันของรูขุมขน และมีการอักเสบร่วมด้วย ซึ่งสิวอักเสบอาจจะพัฒนามาจากสิวหัวปิดไม่มีการรักษาหรือมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียค่ะ โดยสิวอักเสบมีหลายชนิด ซึ่งจะแบ่งตามระดับความรุนแรงของสิว ดังนี้
- Papule สิวอักเสบตุ่มแดงหรือผื่นนูน สิวแบบนี้จะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงและมีขนาดเล็ก
- Pustule สิวตุ่มหนอง ลักษณะของสิวก็จะใหญ่ขึ้นมา มีหนองที่หัวสิวและอาจจะมีอาการปวดด้วย ซึ่งจะมีทั้งแบบตื้นและแบบลึก
- Nodules ตุ่มใหญ่ จัดเป็นสิวอักเสบที่รุนแรง มีลักษณะก้อนสีแดงขนาดใหญ่ ซึ่งอาจมีหลายหัวอยู่ติดๆ กัน
- Cyst อักเสบรุนแรงหรือสิวหัวช้าง มีลักษณะเป็นก้อนนูนแดงขนาดใหญ่และยังเป็นสิวที่มีการทำลายผิวข้างใน ซึ่งเวลาหัวสิวชนิดนี้แตกออกก็จะมีหนองและเลือดออกมา
ซึ่งกระบวนการจะทำให้เกิดสิวได้ ก็มักจะมีทั้งเรื่องของการอุดตันและติดเชื้อร่วมด้วย โดยเฉพาะเชื้อที่เรียกว่า P.acne ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งทำให้เกิดสิวได้ คราวนี้เราลองมาดูกันว่ายาทารักษาสิวทั้ง 5 แบรนด์นั้น เหมาะกับสิวประเภทใดบ้างและมีวิธีการใช้อย่างไรบ้าง
Benzac AC ยาทารักษาสิว
เป็นไอเทมยอดฮิตของคนรักษาสิวเลยค่ะตัวนี้! สำหรับ Benzac AC ก็เป็นยาทาสิวในกลุ่ม Benzoyl Peroxide ซึ่งเค้าจะช่วยให้หัวสิวหลุดออกง่ายขึ้น ช่วยละลายสิวอุดตัน สิวเสี้ยน ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้อ Propionibacterium Acnes หรือ P.Acnes ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเอง ซึ่ง Benzac AC นั้น จะค่อนข้างอ่อนโยนกับผิวมากกว่ายาทารักษาสิวในกลุ่ม Benzoyl Peroxide ตัวอื่นค่ะ เพราะเค้าเป็น Water Base Gel โดยความเข้มข้นก็จะมีให้เลือก 2.5% 5% และ 10% ความเข้มข้นน้อยก็จะระคายเคืองน้อย หากเริ่มใช้ใหม่ๆ ก็แนะนำที่ความเข้มข้นน้อยๆ ก่อน
- วิธีใช้ : แต้มบริเวณที่เป็นสิว ทิ้งไว้ 10-15 นาที ก่อนล้างหน้า
- ขนาด 15 g.
- ราคาประมาณ 150 บาท
Clinda M ยาทารักษาสิว
ยาทารักษาสิว สำคัญคือ Clindamycin 1 เปอร์เซ็นต์ มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ P.acne และลดการอักเสบได้ ใช้สำหรับรักษาสิวอักเสบ และไม่ช่วยลดการอุดตันนะคะ สำหรับใครที่กำลังเป็นสิวใหม่ๆ ให้รีบทาได้ทันทีจะช่วยให้ยุบเร็ว
ซึ่งสำหรับ Clinda M นั้นก็ควรจะใช้คู่กับ Benzac AC เพราะจะช่วยลดอาการดื้อยาได้ดี และอีกอย่างนี้เนื่องจาก Clinda M นั้นมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งก็อาจจะทำให้ผิวแห้งหรือว่าระคายเคืองผิวได้ วิธีใช้ก็คือทาทั้งเช้าและเย็น โดยทา Clinda M ก่อน แล้วค่อยทา Benzac AC ทับ
- วิธีใช้ : แต้มบริเวณหัวสิวที่อักเสบ หลังล้างหน้า วันละ 2 ครั้ง เช้า-ก่อนนอน แต้มก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวอื่นๆ
- ขนาด 15 ml.
- ราคาประมาณ 69 บาท
Acnetin A ยาทารักษาสิว
สำหรับใครทำเคยใช้ยาทารักษาสิว Retin A อยู่แล้วรู้สึกว่าทำไมช่วงนี้หาซื้อค่อนข้างยาก ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้ Acnetin A ได้ค่ะ เพราะว่าใช้ตัวยาเดียวกันคืออนุพันธ์วิตามินเอหรือ Tretinoin ออกฤทธิ์โดยการเร่งให้เกิดการสร้างเซลล์และผลัดเซลล์ ช่วยลดการเกิดสิวและสามารถช่วยลดการอักเสบ เหมาะกับทั้งสิวอุดตันและอักเสบ และนอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยได้ด้วย
แต่ในช่วงแรกที่ใช้อาจจะมีโอกาสทำให้เกิดสิวมากขึ้นได้ โดยระยะเวลาการรักษา เห็นผลจะอยู่ประมาณ 36 สัปดาห์ ดังนั้นคนใช้ยา Acnetin A จำเป็นจะต้องใช้อย่างต่อเนื่องในระยะหนึ่งถึงจะเห็นผลค่ะ
ส่วนอาการข้างเคียงสามารถพบได้คือ ผิวระคายเคือง ผิวแห้ง ผิวแดงและผิวลอก รวมถึงยังทำให้ผิวไวต่อแสงได้สูง วิธีใช้คือแนะนำให้ทาก่อนนอน และต้องระวังเรื่องของการโดนแดด ควรทาครีมกันแดดป้องกันผิว พยายามเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา มุมปาก ซอกจมูกและบริเวณที่มีผิวหนังอ่อนๆ
- วิธีใช้ : ทาบางๆ บริเวณที่เป็นสิว แนะนำให้ทาวันละ 1 ครั้ง ก่อนนอนเท่านั้น
- ขนาด 10 g.
- ราคาประมาณ 100 บาท
ยาทารักษาสิว Differin
ตัวยาใน Differin มีชื่อว่า Adapalene 0.1 เปอร์เซ็นต์ จัดอยู่ในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอเหมือนกับ Acnetin A รวมถึงยังออกฤทธิ์คล้ายกันด้วย มีฤทธิ์ในการรักษาสิวอุดตันและช่วยผลัดเซลล์ผิว ช่วยลดอาการอักเสบ ซึ่งในช่วงแรกที่ใช้ก็อาจจะทำให้มีสิวเพิ่มมากขึ้นได้เช่นกัน ส่วนสำหรับวิธีใช้ก็ยังคงแนะนำให้ทาก่อนนอน พยายามเลี่ยงแสงแดดทั้งในตอนเช้าและในตอนกลางวัน
- วิธีใช้ : ทาบางๆ บริเวณที่เป็น วันละ 1 ครั้ง ก่อนเข้านอน โดยไม่ต้องล้างออก
- ขนาด 15 g.
- ราคาประมาณ 390 บาท
ยาทารักษาสิว Epiduo
สำหรับยาทารักษาสิวตัวสุดท้าย จะมีตัวยาผสมกันอยู่ 2 ชนิด นั่นก็คือ Adapalene 0.1 เปอร์เซ็นต์ และ Benzoyl Peroxide 2.5 เปอร์เซ็นต์ สามารถรักษาได้ทั้งสิวอุดตันและอักเสบ มีฤทธิ์ในการลดการอุดตันของรูขุมขน ช่วยเพิ่มการผลัดเซลล์และสามารถฆ่าเชื้อได้ด้วย อาการข้างเคียงที่พบได้ก็คล้ายกับยารักษาสิวทั่วไปคือ อาจมรอาการระคายเคือง ผิวแดงและลอก รวมถึงผิวมีความไวต่อแสง ส่วนวิธีการใช้ก็คือให้ทาก่อนนอนวันละครั้ง ซึ่งในช่วงแรกอาจจะทาแค่ 15 นาทีแล้วล้างออก เมื่อใช้ติดต่อกันจนรู้สึกว่าไม่ระคายเคืองแล้วก็สามารถทาทิ้งไว้ข้ามคืนได้ และที่สำคัญเมื่อใช้ยารักษาแล้ว ต้องอย่าลืมทาครีมกันแดดทั้งเวลาอยู่ในบ้านหรืออยู่นอกบ้าน เพราะผิวของเราจะไวต่อแสงเป็นพิเศษ
- วิธีใช้ : ทาบางๆ บริเวณที่เป็นสิว วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน
- ขนาด 15 g.
- ราคาประมาณ 600 บาท
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลสำหรับการตัดสินใจเลือกยาทารักษาสิวนอกจากใช้ยาเพื่อให้หายแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลกระทบต่อการเกิดสิว ดังนั้นนอกจากใช้ยาที่ดีแล้ว ควรดูแลตัวเองจากภายใน เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ล้างหน้าให้สะอาด เพียงเท่านี้ก็จะช่วยกู้หน้าใสของเราให้กลับมาได้
- ชี้เป้า 5 คลีนซิ่งบาล์ม ยี่ห้อไหนดี คลีนผิวเกลี้ยง หน้าใสไร้สิว - September 20, 2024
- แนะนำ 5 ยาย้อมผม 7-ELEVEN สีชัด ไม่ทำให้ผมเสีย สวยได้แบบไม่ง้อร้าน - September 18, 2024
- 10 อันดับ โรลออนผู้หญิง ยี่ห้อไหนดี ใช้แล้วตัวหอม วงแขนขาวเนียน - September 17, 2024