สิว เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนกังวลใจอยู่ไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ เพราะนอกจากอาการปวดอักเสบ เมื่อสิวหายอาจยังทิ้งรอยสิวและแผลเป็นเอาไว้ให้ดูต่างหน้าอีก วันนี้เราได้รวบรวม 5 วิธีรักษารอยสิว รอยแดงและแผลเป็นที่เกิดจากสิวให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน ทำให้เรารู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น ว่าแต่จะมีวิธีไหนบ้าง และสาเหตุการเกิดรอยเหล่านี้เกิดจากอะไรกันนะ ถ้าอยากรู้แล้วล่ะก็ไปดูกันเลยจ้า
1. รอยสิวและรอยแผลเป็นเกิดขึ้นได้อย่างไร
แน่นอนว่าเกิดจากการรักษาสิวอุดตันที่มีหัวสิวอักเสบเป็นเม็ดตุ่มนูนๆ บวมแดง หรืออาจเป็นเม็ดเล็กหรือใหญ่ บางครั้ง ที่เป็นหนองบริเวณหัวสิวเรียกว่า “สิวหนอง” แต่หากมีการติดเชื้อและอักเสบมากจึงทำให้มีขนาดใหญ่ เราจะเรียกมันว่า “สิวหัวช้าง” หากเกิดอาการเรื้อรังฝังลึกถึงผิวชั้นใน ก็สามารถเกิดเป็นหลุมและทิ้งรอยแผลเป็นไว้อีกด้วย
สำหรับคนผิวคล้ำ บริเวณที่เกิดการอักเสบจะไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีให้เพิ่มมากขึ้นที่ใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดรอยดำหรือรอยคล้ำหลงเหลืออยู่หลังจากที่สิวหาย ซึ่งแพทย์เรียกอาการแบบนี้ว่า จุดด่างดำ หรือ post-inflammatory hyperpigmentation (PIH) นั่นเองค่ะ
2. รอยสิวหลุมลึกเกิดขึ้นได้อย่างไร
เกิดจากการที่ผิวหนังบริเวณที่เป็นสิวเกิดการอักเสบอย่างรุนแรง จนเอนไซม์ได้ทำลายชั้นผิวหนังบริเวณที่อักเสบ อย่างเช่น ชั้นผิวคอลลาเจนและชั้นผิวอีลาสทิน เนื่องจากร่างกายของเราจะทำการสร้างเนื้อเยื้อเพื่อรักษาส่วนที่สึกหรอไป แต่ต้องใช้ระยะเวลานานจึงควรใช้ครีมรักษารอยสิวและผลิตภัณฑ์ยาลดรอยสิวร่วมด้วยจึงจะเห็นผลได้เร็วขึ้น
3. รอยสิวที่เป็นรอยแดงและรอยดำเกิดขึ้นได้อย่างไร
เมื่อพูดถึงปัญหารอยแดง รอยดำ การป้องกันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าการรักษารอย เพราะเมื่อเป็นแล้วยากที่จะหายและอาจมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงขึ้นตามไปด้วย เพราะต้องพึ่งการรักษาหลากหลายวิธี เช่น เลเซอร์ ผลัดเซลล์ผิว หรือ กรอผิว เพราะฉะนั้นการป้องกันไว้ก่อนน่าจะดีกว่าการมาแก้ปัญหาในภายหลังนะคะ
แนะนำ 5 วิธีรักษารอยสิว รอยแดง รอยดำที่ทุกคนควรรู้
วิธีรักษารอยสิววิธีที่ 1. อย่าไปแคะ แกะ หรือบีบเด็ดขาด
การแคะ แกะ บีบเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างมากในการรักษารอยเลยค่ะ เพราะการบีบ หรือแกะแบบนี้คือการไปกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น และหากมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ไม่สะอาดอาจทำให้เกิดการอักเสบจนเป็นสาเหตุของการเกิดหลุมสิวและรอยสิวได้นั่นเอง
วิธีรักษารอยสิววิธีที่ 2. อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ออกฤทธิ์แรง
อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ออกฤทธิ์รุนแรงเกินไป หรือขัดถูบริเวณที่อักเสบมากจนเกินไปเพราะจะยิ่งไปกระตุ้นอาการอักเสบและอาจทำให้เวลาที่สิวอักเสบหายแล้วอาจเกิดเป็นรอยหรือหลุมได้ ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์รักษารอยหรือลดรอยโดยเฉพาะ
วิธีรักษารอยสิววิธีที่ 3. อย่าปล่อยให้ผิวแห้ง
ข้อนี้เป็นอีกข้อที่สำคัญอย่างมากเลยค่ะ เพราะการที่ปล่อยให้ผิวหนังแห้งนอกจากนะทำให้เกิดริ้วรอยแล้ว คนที่มีผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำจะยิ่งทำให้หน้าของเรานั้นผลิตน้ำมันออกมามากทำให้เกิดการอุดตันได้ หากจะบำรุงผิวหน้าและรักษารอยให้เห็นผลได้ดียิ่งขึ้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นและหมั่นบำรุงอยู่เสมอ
วิธีรักษารอยสิววิธีที่ 4. ใช้ครีมกันแดดทุกครั้ง
ถ้าให้พูดเรื่องแสงแดดเป็นเรื่องที่หลายๆคนมองข้ามกันอย่างแน่นอน เพราะแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดรอยแดง รอยดำเพิ่มมากขึ้นนั่นเองค่ะ และในบริเวณที่เป็นรอยสิวที่เพิ่งเกิดขึ้นแสงแดด อาจทำให้บริเวณรอยเกิดเป็นรอยดำได้ง่ายยิ่งขึ้นนั่นเองจ้า
วิธีรักษารอยสิววิธีที่ 5. อย่ากลัวที่จะปรึกษาแพทย์ด้านผิวหนัง
มาถึงวิธีสุดท้ายหากเริ่มรักษารอยสิวหรือเริ่มใช้ยาลดรอย ควรพบแพทย์หรือปรึกษาก่อน เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการรักษารอยสิว และการดูแลที่ถูกต้อง และควรอยู่ในการควบคุมของแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งที่จะตัดสินใจใช้ยาหรือครีมในการรักษารอยสิวนะคะ
ทีนี้คงรู้สาเหตุการเกิดรอยสิว รอยแดง รอยดำ รวมไปถึงหลุมสิวกันแล้ว ทำให้เราสามารถป้องกันไว้ก่อนได้ เพียงแค่ให้ปฏิบัติตาม 5 วิธีรักษารอยสิว และเอาใจใส่ในการดูแลผิวหน้าควบคู่ไปพร้อม ๆ กัน จะยิ่งช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพในการรักษาที่ดียิ่งขึ้นตามมาด้วย เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เรามีผิวหน้าที่เนียนใสห่างไกลจากสิวได้แล้วล่ะค่า สำหรับใครที่กำลังมองหาเทรนด์ความงามอย่าลืมติดตาม บทความ ใหม่ๆ ได้ที่เว็บไซต์ beautyismind ด้วยน๊าา
- 10 Toner Pad โทนเนอร์แบบแผ่น ยี่ห้อไหนดี เช็ดง่าย ช่วยบำรุงผิว - September 30, 2024
- มัดรวม 7 คุชชั่นแบรนด์ไทย งานผิวสวย คุณภาพดีในงบแค่หลักร้อย - September 19, 2024
- มัดรวม 8 แป้งนางฟ้า แป้งโปร่งแสง 2024 หน้าเนียน คุมมัน เมคอัพไม่ดรอปทั้งวัน - September 2, 2024